วิธีการสมัครทุนรัฐบาลจีน CSC เรียนต่อที่ประเทศจีน

วิธีการสมัครทุนรัฐบาลจีน CSC เรียนต่อที่ประเทศจีน

เรียบเรียงโดย ติวเตอร์ไฮ้


ทุนการศึกษาของจีนมีทั้งหมด 4 ประเภท คือ 

     1. ทุนการศึกษาของรัฐบาลจีน 

      2.ทุนการศึกษาจากรัฐบาลท้องถิ่น 

     3.ทุนการศึกษาจากสถาบันขงจื๊อ

     4.ทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัยในประเทศจีนที่จัดตั้งขึ้นเอง 

ก่อนการสมัครทุนการศึกษาของแต่ละแห่ง เราต้องศึกษาเงื่อนไขของแต่ละที่เสียก่อน เพราะบางแห่งกำหนดอายุในการสมัคร บางโครงการกำหนดคนอายุไม่เกิน 35-40 ปี บางโครงการใช้ภาษาจีนทำการเรียนการสอนและต้องลงทะเบียนเรียนวิชาภาษาจีนเพื่อปรับพื้นฐานเสียก่อน ในขณะที่บางแห่งใช้ภาษาอังกฤษทำการเรียนการสอน (English Taught Program)

ในบทความนี้ เราจะกล่าวถึงวิธีสมัครทุนรัฐบาลจีนผ่านทางเว็บไซต์ของ China Scholarship Council (ต่อไปนี้ขอเรียกว่า “CSC”) ซึ่งเป็นช่องทางการสมัครขอทุนทั้งของหน่วยงานรัฐและมหาวิทยาลัยในประเทศจีน และวิธีการสมัครขอทุนกับทางมหาวิทยาลัยโดยตรง

ทุนรัฐบาลจีน CSC คืออะไร?

CSC หรือ “China Scholarship Council” เป็นองค์กรที่อยู่ภายใต้การดูแลและกำกับของกระทรวงศึกษาธิการจีน โดยจะมอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนต่างชาติจากทั่วทุกมุมโลกเพื่อมาศึกษาต่อยังประเทศจีน โดยทุนที่ทาง CSC มอบให้นั้นก็มีหลายระดับด้วยกัน เช่น ระดับปริญญาตรี โท เอก รวมไปจนถึงทุนเรียนภาษา 1 ปีและทุนวิจัยอีกด้วย

สำหรับทุนของรัฐบาลจีนจะมีอยู่ 2 ประเภท คือ ทุนการศึกษาที่ให้เต็มจำนวนซึ่งจะยกเว้นค่าธรรมเนียม ค่าเล่าเรียน ค่าอุปกรณ์การศึกษาในห้องทดลองรวมไปถึงค่าที่พักระหว่างการศึกษา และทุนการศึกษาที่ให้บางส่วนซึ่งอาจยกเว้นค่าใช้จ่ายบางอย่าง แต่ส่วนอื่นเราเป็นฝ่ายออกเอง

วิธีการหาข้อมูลมหาวิทยาลัยและคณะที่สนใจ

สามารถเริ่มต้นจากการหาข้อมูลของมหาวิทยาลัยในจีน ว่ามีมหาวิทยาลัยอะไรบ้าง โดยสามารถเข้าไปดูได้ที่ www.csc.edu.cn ค้นหาข้อมูลของมหาวิทยาลัยและสาขาวิชาที่สนใจจะขอทุน ตรวจสอบวันรับสมัครของแต่ละมหาวิทยาลัยให้ดีๆ โดยส่วนใหญ่นั้นจะเปิดรับสมัครช่วงเดือนตุลาคม เมษายน

บางมหาวิทยาลัยนั้นจะขอผลคะแนน HSK ระดับ 5-6 ในการยื่นสมัครชิงทุน

ทุนรัฐบาลจีน CSC ไม่ได้กำหนดว่าผู้สมัครนั้นจะต้องมีผลสอบวัดระดับภาษาจีน HSK แต่ว่าตอนสมัครนั้นต้องแสดงความต้องการในใบสมัครว่าขอเรียนภาษาจีน 1 ปีด้วย ทางรัฐบาลก็จะมีทุนให้เรียนภาษาจีนก่อน 1 ปี ก่อนเข้าเรียนในระดับปริญญา “แต่ว่าบางมหาวิทยาลัยนั้นก็จะขอผลคะแนน HSK ระดับ 5-6” และยังต้องไปเรียนภาษาจีนเพิ่มเติมอีกด้วย ดังนั้นผู้สมัครควรเตรียมตัวด้านภาษาให้พร้อม กรณีที่จะขอทุนที่ใช้ภาษาจีนในการเรียน (Chinese Taught Porgram)


ทุนที่สามารถสมัครได้มีกี่ประเภท?

ทุนรัฐบาลจีน CSC ที่เราสามารถสมัครได้มีอยู่ 3 ประเภท คือ

      - ทุนประเภท A ที่เป็นทุนจากหน่วยงานรัฐบาลโดยตรง (เช่น สถานทูตจีนประจำประเทศไทย หน่วยงานต่างๆ) 

      - ทุนประเภท B คือ ทุนที่มาจากมหาวิทยาลัยโดยตรง ซึ่งหากมีมหาวิทยาลัยใดที่ให้ทุน เราก็สามารถยื่นขอทุนในเว็บนี้ได้เลย 

      - ทุนประเภท C ที่เป็นทุนทั่วไปซึ่งอาจมาจากหน่วยงานอื่นๆ

หากเป็นทุนประเภท A หน่วยงานที่มีหน้าที่ในการพิจารณาและการประเมินผล คือ CSC หน่วยงานของรัฐที่ให้ทุน ส่วนทุนประเภท B จะพิจารณาและประเมินโดยมหาวิทยาลัยที่ให้ทุน และทุนประเภท C ก็จะเป็นหน่วยงานที่ให้ทุนเป็นฝ่ายพิจารณา

วิธีสมัครทุนรัฐบาลจีน CSC

เข้าไปที่เว็บไซต์ของหน่วยงาน China Scholarship Council studyinchina.csc.edu.cn

ลงทะเบียนเพื่อขอรับ username และ password เพื่อเข้าสู่ระบบ และกดยืนยันตัวตนผ่านลิงค์ในอีเมลที่ลงทะเบียนไว้

เมื่อเข้าระบบได้แล้ว ให้ใส่ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อยืนยันตัวตน

ทุนที่เราสมัครได้มีอยู่ 3 ประเภท แต่ไม่ว่าจะเป็นทุนประเภทใด เราต้องใส่ Agency Number หรือหมายเลขประจำหน่วยงานรัฐหรือมหาวิทยาลัยให้ตรงกับประเภทของทุนและหน่วยงานที่จะให้ ระบบจึงจะจัดสรรได้อย่างถูกต้องและพิจารณาในขั้นตอนต่อไป

สำหรับทุนประเภท A (หน่วยงานรัฐ) และทุนประเภท C (หน่วยงานอื่น) เราสามารถเลือกทุนและดูเงื่อนไขของคะแนนภาษาที่ต้องยื่น รวมไปถึงแผนการเรียน หากเราเข้าใจและพร้อมปฏิบัติตามรายละเอียดแล้ว ก็ให้ยื่นเอกสารการสมัครตามที่ปรากฏได้เลย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นหลักฐานการศึกษา จดหมายรับรองจากอาจารย์ 2 ฉบับ หนังสือเดินทาง เป็นต้น

แต่หากเลือกทุนประเภท B (ทุนจากมหาวิทยาลัย) ซึ่งเราเลือกสมัครได้ 2-3 แห่ง เราก็สามารถเลือกสมัครที่เราต้องการและคิดว่ามีโอกาสได้มากที่สุดก็ได้ เพราะการแข่งขันค่อนข้างสูง จากนั้นให้เลือกดูเงื่อนไขของคะแนนภาษาที่ต้องยื่น รวมไปถึงแผนการเรียน พร้อมกับยื่นเอกสารการสมัครซึ่งเหมือนกับการยื่นทุนประเภท A และ C ในเบื้องต้น บางทุนอาจต้องการหลักฐานอื่นๆ เพิ่มเติมตามแต่ละโครงการและสาขา

เมื่อสมัครทุนแล้ว จะไม่สามารถแก้ไขข้อมูลส่วนตัวใด ๆ ได้อีก แต่สามารถยกเลิกการสมัครทุนต่าง ๆ ได้ อย่างไรก็ตาม หากสมัครในรอบที่ 2 แล้วและขอยกเลิกอีกครั้ง จะไม่สามารถทำได้

พิมพ์ใบสมัครที่เสร็จแล้วออกมา เก็บไว้เป็นหลักฐาน

นี่คือวิธีการคร่าว ๆ ในการสมัครขอทุนจากเว็บไซต์ของหน่วยงานรัฐของจีน ซึ่งเราต้องตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้งหากมหาวิทยาลัยหรือหน่วยงานใดขอเอกสารเพิ่มเติมหรือต้องการให้ติดต่อผ่านช่องทางใด

ข้อสำคัญเลยก็คือ ต้องทราบว่าหน่วยงานไหนรับผิดชอบทุนประเภทใด มหาวิทยาลัยและหน่วยงานที่เรากำลังขอทุนนั้นมีหมายเลขประจำตัวหรือ “Agency Number” ใด เพราะหากผิดพลาด เราก็ไม่สามารถสมัครได้



China Scholarship Council

ช่วงเวลาที่เปิดรับสมัครทุนอยู่ที่ประมาณเดือนตุลาคมและสิ้นสุดปลายเดือนมีนาคมหรือไม่ก็ช่วงต้นเดือนเมษายน หลังจากเราได้รับการยืนยันว่าได้รับทุนแล้ว เราก็จะได้เอกสารรับรองเพื่อขอวีซ่าในลำดับถัดไป

แล้วถ้าเราไม่อยากสมัครกับ CSC ล่ะ มีวิธีการอื่นอีกไหม?

มีแน่นอน นั่นก็คือ การเลือกสมัครกับมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่มีมากกว่าร้อยแห่งทั่วประเทศจีนโดยตรงได้เลย มหาวิทยาลัยเหล่านี้เสนอทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาจากต่างประเทศเพื่อเข้ามาศึกษาต่อยังประเทศจีนโดยเฉพาะ ข้อดีของการสมัครทุนกับทางมหาวิทยาลัยโดยตรง คือ “กระบวนการสมัครมีความยืดหยุ่นกว่า” ง่ายต่อการยื่นขอมากกว่าและที่สำคัญ คือ บางครั้งมีตัวเลือกให้เลือกมากกว่าทุนที่จัดสรรโดยรัฐบาล

เราเพียงแค่เข้าไปที่หน้าเว็บไซต์ของแต่ละมหาวิทยาลัย แล้วตามหาในส่วนของ scholarship ก็จะมีการประกาศรับสมัคร เช่น มหาวิทยาลัยปิโตรเลียมของจีน (UPC) เสนอทุน 3 ระดับ มีทั้ง First Class ที่ให้เงินสนับสนุนค่าเทอมทั้งหมด และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในขณะที่ Second Class และ Third Class ก็จะให้ค่าเทอมทั้งหมดแต่ไม่ได้สนับสนุนค่าใช้จ่ายอื่นๆ เป็นต้น


ข้อดีของการสมัครทุนกับทางมหาวิทยาลัยโดยตรง คือ “กระบวนการสมัครมีความยืดหยุ่นกว่า

แต่หากสมัครขอทุนมหาวิทยาลัยเดียวกันผ่านทาง CSC เราจะพบกับเงื่อนไขและรายละเอียดที่มีเป็นจำนวนมาก ทั้งๆ ที่เป็นโครงการและมหาวิทยาลัยเดียวกัน เพียงแต่อาจแตกต่างในเรื่องปลีกย่อย ดังนั้น หากเราคิดว่าไม่อยากรอกระบวนการที่ยุ่งยากหรือทำหลายขั้นตอน เราสามารถติดต่อขอรายละเอียดและสมัครได้โดยตรงกับทางมหาวิทยาลัยที่เราสนใจ แต่อัตราการแข่งขันก็จะมากขึ้นเช่นกัน

ส่วนเอกสารที่ใช้ประกอบการสมัครหลักๆ ก็จะมีคะแนนภาษาอังกฤษ TOEFL มากกว่า 80 คะแนน หรือ IELTS ประมาณ 6 หรือมากกว่า และคะแนนภาษาจีน HSK ระดับ 4 หลักฐานการจบการศึกษา หนังสือเดินทางและจดหมายรับรองจากอาจารย์ ส่วนเงื่อนไขอื่นๆ ในการรับสมัครก็ไม่ต่างจากทุนจีนจากที่อื่นๆ คือ ต้องเป็นผู้มีสุขภาพดี มีหลักฐานการตรวจร่างกาย ไม่มีประวัติการก่ออาชญากรรม เป็นต้น ส่วนเวลาในการเปิดรับสมัครของแต่ละมหาวิทยาลัยจะอยู่ในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคม

นี่คือวิธีการคร่าวๆ ในการสมัครขอทุนเรียนต่อประเทศจีน สำหรับใครที่กำลังอยากเรียนต่อ ก็ขอให้ประสบความสำเร็จในการคว้าทุนที่ใฝ่ฝันมาครอบครองน๊า

 


บ้านติวภาษาจีนติวเตอร์ไฮ้  เขตสายไหม  กรุงเทพมหานคร

โทรศัพท์ 089-126-5695

ไลน์ hai_harvard

https://www.tutorhaichinese.com



ความคิดเห็น